วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550

สรุปการเรียนรู้กับ Java 3

วันนี้ อาจารย์ได้อธิบายถึงเรื่องชนิดของข้อมูล

ซึ่งมีหลากหลายขนาดมาก ตั้งแต่เล็กมาก ถึง ใหญ่มาก

ซึ่งมีมากมายเช่น

ข้อมูลที่เป็นจำนวนเต็มซึ่งเรียงจากข้อมูลที่เล็กสุดไปใหญ่สุด


เช่น

Byte, Short, Integer, Long


ซึ่งการใช้งานของตัวแปรคือ ถ้าตัวแปรมีขนาดเท่ากันทำอะไรกัน

จะไม่มีการเปลี่ยนชนิดข้อมูลชนิดนั้น


เช่น


1/2 = 0


เนื่องจากทั้ง 1 และ 2 คือจำนวนเต็ม เพราะฉะนั้นถ้าเอาไป / 0

ก็ต้องเป็นข้อมูลชนิดเดิมคือ จำนวนเต็ม


แต่ถ้าข้อมูล 2 ชนิดมีขนาดที่แตกต่างกันทำอะไรกัน

โปรแกรมจะแปลขนาดข้อมูลที่เล็กกว่าไปสู่ขนาดที่ใหญ่กว่าเสมอ


เช่น


1.0/2 = 0.5


จะไม่เหมือนตัวอย่างแรกเนื่องจาก ตัวอย่างแรกเป็นจำนวนเต็มทั้งหมด

แต่ ตัวอย่างนี้มีการแปลงข้อมูลซึ่งทำให้หาข้อมูลได้กว้างขึ้น


ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถกำหนดเขตของข้อมูลให้กว้างที่สุดเสมอไป

เนื่องจากจะทำให้เราสับสนแล้ว ยังทำให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลช้าลงอีกด้วย

เป็นการทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานหนักโดยใช่เหตุ


การกำหนดตัวแปร


การประกาษตัวแปรนั้น เป็นการใช้ประโยชน์กับเมื่อมีจำนวนข้อมูลเยอะๆ

แล้วเอามาประมวลผลร่วมกัน ในทางอ้อม เหมือนเป็น

การป้องกันให้ผู้ใช้สับสนทางหนึ่ง


ซึ่งการประกาศตัวแปรของโปรแกรม java นี้

เป็นการประกาศใช้ Paramitter โดยใช้ array

โดยการประกาศตัวแปรหลักๆคือ


System.out.println(args[n])


โดย n คือจำนวนเต็ม (เริ่มจาก 0)

ซึ่งหลังการใช้ตัวแปรทั่วไปจะอยู่ในรูปของ String เสมอ


ถ้าอยากให้ตัวแปรนี้เปลี่ยนเป็นข้อมูลอื่นๆ

ให้ใส่ชนิดของข้อมูลนั้นๆ หน้าตัวแปรที่ประกาศ


เช่น

เมื่ออยากให้ตัวแปรเป็นจำนวนเต็ม


Integer.parseInt(args[n])


เป็นต้น


เมื่ออยากให้จำนวนเต็มที่เป็นตัวแปรบวกกันก็สามารถทำได้โดย


(Integer.parseInt(args[n]) + Integer.parseInt(args[n]))


แต่เวลาใช้ตัวแปรนั้น เราไม่สามารถ run ได้ด้วยโปรแกรม jcreator LE

ต้องใช้โปรแกรม Command Prompt ในการ run

เนื่องจากเราไม่สามารถกำหนดค่าของตัวแปรลงได้ในโปรแกรม

ในทางตรงกันข้าม ในCommand Prompt สามารถกำหนดได้








จากที่เห็นจากภาพคือโปรแกรมสามารถ Compile ได้ตามปกติ







แต่เมื่อ Run แล้วจะ Error เนื่องจากไม่มีค่าของตัวแปร



การใส่ค่าของตัวแปรใน Command Prompt

ทำได้ไม่ยากโดย Run ชื่อไฟล์แล้วตามด้วยตัวแปรนั้นๆ แต่ต้องเว้นวรรค

เพื่อแบ่งตัวแปร

ตัวอย่างเช่น


java Project "Hello" "Zebra" "Etc." 12321


ซึ่งเมื่อใช้ตัวแปรที่เป็นเลขแล้ว เมื่อข้อมูลมีเยอะกว่าตัวแปร

โปรแกรมจะใช้เฉพาะข้อมูลชั้นที่มีตัวแปรอยู่เท่านั้น

เช่นถ้าเราประกาษแค่ตัวแปรเดียว แต่เรา Run โปรเจกโดย


java Project 11 21 23 42


โปรแกรมจะแสดงข้อมูลเฉพาะ 11 เท่านั้น








เมื่อ Run ใน Command Prompt โดยใส่ตัวแปรดังรูปจะได้ผลลัพธ์ออกมา
สามารถดาวน์โหลดผลงานได้ที่นี่

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550

สรุปการเรียนรู้กับ Java 1

โปรแกรมจาว่าเป็นโปรแกรมที่ใช้กันทั่วหลาย ทั้งโปรแกรมในการเขียนและ
การใช้ ตั้งแต่เกมต่อหลายเกมจนถึงการซื้อขายหุ้น โปรแกรมนี้ใช้ได้หลากหลายมาก
ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ประยุกต์ทำอะไร
อย่างไรก็ตามการใช้โปรแกรมจาว่าไม่ได้มีอะไรยากเย็นมาก แค่ต้องมีพื้นความรู้
เกี่ยวกับภาษา C ซึ่งเป็นภาษาของคอมพิวเตอร์ ถ้ามีความรู้ส่วนนี้แล้ว ส่วนอื่นจะจัดการได้เร็วขึ้นมาก

สิ่งที่ผมได้เรียนไป ก็มี
การสร้าง Folder ด้วย Command Prompt
การดูไฟล์และการเข้าไฟล์ใน Command Prompt
การเขียน Notepad แปลงไฟล์เป็นโปรแกรม Java
และการใช้ Command Prompt และ Java LE เพื่อยืนยัน และ Run โปรแกรม
ซึ่งแรกสุดการสร้างโฟลเดอร์ใน Comamnd Prompt ทำได้ไม่ยากโดย
พิมพ์ md แล้วตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการสร้าง
เช่น md file1 เป็นต้น ก็จะได้โฟลเดอร์ชื่อ file1 เป็นต้น







แล้วกด Enter ไป











แล้วจะได้โฟลเดอร์ดังรูป













ต่อมาการเข้าไปในไฟล์ต่างๆใน Command Prompt ก็ไม่ได้ยากเย็นมาก
โดย พิมพ์ cd แล้วตามชื่อโฟลเดอร์
เช่น
ตอนนี้อยู่ Drive C แล้วต้องการเข้า Program Files ผ่าน Command Prompt ก็ให้พิมพ์ว่า
cd Program Files แล้ว Enter จะได้ผลดังรูป










คือเข้าไปใน Program Files แล้วนั่นเอง
*การพิมพ์ cd .. เป็นจารออกจาก Drive ที่อยู่ในปัจจุบัน 1 หน้า
ส่วนการดูว่ามีอะไรในโฟลเดอร์นั้นก็ไม่ยากแค่พิมพ์ dir และกด Enter เท่านั้น
โปรแกรมจะแสดงผลไฟล์ทั้งหมดที่มี โดนที่มีเขียน DIR ตรงกลางคือโฟลเดอร์ย่อย
ส่วนที่ไม่มีคือไฟล์ ดังรูป












การแปลงไฟล์จาก Notepad ให้เป็นโปรแกรม Java ทำไม่ยากโดย
เขียนโปรแกรมเข้าไปซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
1. ส่วนหัว methord
2. ส่วนรายละเอียด property
ส่วนหัวคือการประกาศส่วนหัวโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเขียน
public class *ชื่อไฟล์
เป็นต้น

ส่วนรายละเอียดแล้วเป็นการบอกการกระทำของโปรแกรมนี้
ส่วนที่ผมเรียนแล้วเป็นส่วนที่ให้พิมพ์ข้อความออกมา
โดยวิธีเขียนคือ
public class *ชื่อไฟล์ {
public static void main (String [] args) {
system.out.println("*ข้อความ")
}
}

โดยสีน้ำเงินที่รู้ๆอยู่แล้วคือส่วนหัว
ส่วนสีเขียวคือส่วนการใช้ตัวแปล ที่ผมใช้คือตัวแปลตัวอักษร (String)
ส่วนตัวที่เป็นสีแดงคือคำสั่ง ที่ผมสั่งคือสั่งให้พิมพ์ข้อความออกมาเมื่อ run โปรแกรมนี้
สุดท้ายต้องเปลี่ยนจากโปรแกรม .txt เป็น All และเซฟด้วย .java เพื่อแปลงให้เป็นโปรแกรมจาว่า
ในการ run โปรแกรมจาว่า ผ่าน Command Prompt นั้น จะแบ่งเป็น 2 ขึ้นตอนหลักๆ คือ
1. ยืนยันโปรแกรมที่จะ run ของจาว่า
2. run โปรแกรม
โดย การยืนยันนั้น เราจ้องมีโปรแกรม javac ซึ่งสามารถโหลดฟรีได้ตามเว็บอินเตอร์เน็ต
การยืนยัน อย่างแรกเราต้องเข้าไปในไฟล์ที่มี java ที่ต้องการจะ run ก่อน
แล้วค่อยยืนยันโดยพิมพ์อย่างนี้
javac *ชื่อไฟล์.java

เท่านี้ก็เป็นการยืนยันอย่างง่ายๆ
ส่วนการ run ก็พิมพ์
*ชื่อไฟล์ java
เป็นการ run โปรแกรมใน Command Prompt
แต่เราสามารถยืนยันและ run ไฟล์ผ่านโปรแกรมของ jcreator le ได้
โดยวิธียืนยันจะสะดวกกว่าโดยคลิกไอคอนสีเหลืองที่อยู่ด้านบน
และการ run ก็ทำโดยคลิกไอคอนสีฟ้าที่อยู่ด้านบน (ถัดจากไอคอนยืนยันด้านขวา 2 ช่อง)
ปล. ในช่วงหลังๆจะไม่มีรูปเนื่องจากไม่ได้โหลดโปรแกรมมาจึงไม่สามารถเอารูปจากโปรแกรมมาอ้างอิงได้
จึงขออภัย ณ ที่นี้ และผมแนบไฟล์ตัวอย่างมาด้วยในนี้แล้ว
ปล2. เว็บที่ผมอัพโหลดไฟล์นั้น จำเป็นต้องโหลด Toolbar ของเว็บนี้ก่อนถึงจะโหลดไฟล์ในเว็บนี้ได้

สรุปการเรียนรู้ Java 2

ภาษาของสิ่งมีชีวิต มีหลากหลายภาษามากมาย
ถ้าเป็นของมนุษย์เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน
เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์แล้ว มันก็มีหลายตัวภาษาเหมือนกัน
ภาษา C ภาษา Java ภาษาของ Delphi ฯลฯ
ซึ่งมีรูปแบบเฉพาะตัว
จากภาษาของ Java แล้ว มีตัวแปรมากมาย
เช่น ตัวแปรอักษร (String) ตัวเลขจำนวนเต็ม (Integer) ทศนิยม (Floating )
เป็นต้น

ซึ่งวันนี้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนอักษรตัวแปร
ที่เป็นเลขจำนวนเต็ม (Integer) กับ จำนวนเลขทศนิยม (Floating)
ซึ่งนำมาเขียนเป็นสูตรเรขาคณิตรูปสามเหลี่ยม
โดยกำหนดเลขที่ชัดเจน เช่น
สูตรพื้นที่ของสามเหลี่ยมทั่วไปคือ 1/2 * ฐาน * สูง

โดยกำหนดให้ความกว้างของฐานคือ 10

และ ความสูงของสูงคือ 20
โดยนำมาเรียงสมการดังรูป














*ในตอนแรกสมการจะมีปัญหาโดยจะได้ผลลัพท์เท่ากับ 0
เมื่อไม่ได้ใส่ .0 หลังเลข 1 เนื่องจาก
เลข 1 เหมือนเป็นตัวแปรเลขจำนวนเต็ม เมื่อหารกับ 2 แล้วตามกฏ
ของโปรแกรมนี้จะปัดเศษลงหมด เมื่อตัวแปรเป็นจำนวนเต็ม เพราะฉะนั้น
การใส่ .0 ต่อท้ายเหมือนเป็นการประกาศตัวแปรใหม่ในตัวด้วย

เมื่อนำมา Run จะได้ตามรูป


ซึ่งเป็นสูตรพื้นฐานของสามเหลี่ยมปกติ
ปล.งานและไฟล์ที่อยู่บนเว็บของอาจารย์ใช้ไม่ได้ เลยไม่สามารถอธิบายได้ละเอียดมากนัก

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2550

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเดินไปทางไหนได้

เป็นช่วงหนึ่งของเช้าวันว่างๆวันหนึ่งเท่านั้นที่อัพ
แต่เมื่อนึกย้อนหลังไปดูชีวิตของใครแต่ละคนแล้ว
พบว่าหลายสิ่งที่เกิดขึ้นมา โดยคนส่วนใหญ่แล้วมักจะพูดว่า
"ช่วยไม่ได้มันเป็นอย่างนี้นิ"แบบสุ่มสี่สุ่มห้าพูด
ถ้าสังเกตุดีๆเเล้ว เขาได้ตัดสินใจผิดพลาดไปแล้วโดยไม่ได้มองเหตุการณ์ระยะยาวและกำลังของตนเอง
ไม่ว่าใคร คนไหนจะพร้อมแค่ไหนก็ตามก็มีสิทธ์เป็นอย่างนี้ได้

ในทางตรงข้ามหากเราได้ตั้งจุดหมายปลายทางแล้วเลือกที่จะเดินไป
ไม่ว่าจะเริ่มต้นจะต่ำต้อยขนาดไหน สุดท้ายก็ไปถึงจุดหมายได้
แค่เวลาเป็นเครื่องมือในการพิสูจน์บวกกับเวลา

ผมขอยกตัวอย่างส่วนหนึ่งของความสำเร็จของปู่ของผมมาเล่าให้ฟัง

ตอนแรกเริ่มเลย ครอบครัวของปู่ของผมเป็นชาวนาอยู่แห่งหนึ่งของเมืองจีน
ปู่ทวดและย่าทวดของผมเป็นชาวนาที่ไม่มีโชคในการทำนาที่นั่นเลย
เนื่องจากเหตุนั้นทั้งครอบครัวของปู่ของผมเลยตัดสินใจจะย้ายมาที่เมืองไทยตั้งแต่ปู่ของผมอายุยังแค่ 3 ขวบ
โดยหวังว่าจะมีงานทำที่ดีกว่าในเมืองไทย
ก่อนย้ายนั้น เพื่อนๆของปู้ทวด ย่าทวดได้บอกประมาณว่าย้ายไปก็เหมือนกัน
แต่ด้วยความมุ่งมั่นของปู่ทวดและย่าทวดจึงได้ย้ายมา
หลังจากย้ายมา การทำนาทำอะไรก็ดีขึ้นแต่ในวันหนึ่ง ปู่ของผมมีความคิดอยากทำห้างสรรพสินค้าขึ้น
จึงเริ่มศึกษาการทำห้างขึ้นโดยทำร้านชำขึ้นมา
แล้วเริ่มขยายร้านออกไป อีกทางหนึ่งท่านก็ไปศึกษาจากต่างประเทศอีกส่วนหนึ่ง
แล้วมาประยุกต์ใช้กับที่เมืองไทย
คุณปู่ของผมได้ประสพความสำเร็จประมาณอายุ 50 ปี

เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว การตั้งจุดมุ่งหมายมันไม่ได้ยากอย่างที่คิดแต่แค่
จะกล้าทำหรือเปล่าเท่านั้น
ถ้าในอดีต ครอบครัวของผมไม่ตัดสินใจมาไทย คุณอาจจะเห็นผมนั่งดำนาอยู่ก็เป็นได้

แต่นี่คือปัจจุบัน
หากคุณตั้งจุดมุ่งหมายแล้ว เดินไปตามที่วางไว้
ถึงคุณมีจุดเริ่มต้นแย่กว่าเกษตรกรเพียงใด คุณสามารถทำตัวคุณให้เก่งกว่าคนที่คุณคิดได้เสมอ
แค่คุณจะทำหรือไม่